บ้าน Double Volume   เพดานสูง ดีไซน์โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์

หัวใจสำคัญที่สุดในการออกแบบบ้านคือการตอบโจทย์ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายที่สุด แต่ทั้งนี้ความสวยงามตอบรับกับคาแรคเตอร์ในแต่ละสไตล์ รวมถึงตอบรับการแสดงออกถึงตัวตนผู้เป็นเจ้าของก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน High Ceiling หรือ บ้าน Double Volume Space หรือการดีไซน์พื้นที่ให้มีเพดานสูงเป็นพิเศษ เป็นรูปแบบดีไซน์ที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะไม่เพียงสร้างความรู้สึกโอ่อ่าให้กับบ้านหลังนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์แล้ว พื้นที่ที่โปร่งโล่งยังนำมาซึ่งบรรยากาศสบาย อากาศถ่ายเท เสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

1.มาตรฐานความสูงเพดานเพื่อการอยู่อาศัย

ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วไปนิยมใช้ระดับพื้นถึงฝ้าเพดาน ประมาณ 2.5-2.8 เมตร หรือหากต้องการสภาพห้องที่โปร่งหน่อยก็สามารถขยับความสูงไปเป็น 2.8 – 3.0 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่ให้ความรู้สึกสบายในการอยู่อาศัย และพอดีกับขนาดมาตรฐานของวัสดุก่อสร้างทั่วไป

ส่วนเพดานแบบ High Ceiling หรือแบบบ้าน Double Volume Ceiling ถือเป็นออปชั่นพิเศษในการออกแบบ มีลักษณะเป็นที่ว่างที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ใช้งานในแนวดิ่ง มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 5.00 – 8.00 เมตร หรืออาจมากกว่านี้หากเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่

ในการดีไซน์พื้นที่ในบ้านด้วยเพดานสูงพิเศษ นิยมใช้กับพื้นที่ที่มีกิจกรรมร่วมกัน อย่างเช่นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก รวมไปถึงโถงบันได เพราะนอกจากสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น สร้างความโปร่งสบาย ไม่อึดอัดแล้ว อากาศยังหมุนเวียนได้ดี ลดความร้อนภายในห้อง เพราะมวลอากาศร้อนนั้นไหลขึ้นที่สูงเสมอ และมวลความเย็นจะเข้ามาแทนที่ จึงทำให้บ้าน Double Volume มีความเย็นสบาย

2.ทำไมใครๆ ก็หลงรัก บ้านแบบ Double Volume และ High Ceiling

มีงานทดลองชิ้นหนึ่ง พบว่าคนอยู่ในห้องที่มีเพดานสูง 3 เมตร มีแนวโน้มที่จะคิดได้อย่างอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ไหลลื่น และสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าคนที่อยู่ในห้องมีเพดานต่ำเพียง 2.44 เมตร

นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบด้านประสาทวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่ง ที่ให้ผู้เข้าร่วมทดสอบดูรูปภาพห้องต่างๆ โดยครึ่งหนึ่งเป็นภาพห้องแบบ High Ceiling ส่วนอีกครึ่งเป็นภาพห้องที่มีเพดานต่ำ ผลปรากฏว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ตัดสินให้ห้องที่สวยคือห้องแบบ High Ceiling และหลักฐานจากผลสแกนสมอง พบว่าสมองคนเรานั้นถูกกระตุ้นให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและรับรู้ถึงสิ่งต่างๆ รอบๆ ห้องที่ดีไซน์ด้วยเพดานสูงมากกว่า ในขณะที่ห้องเพดานต่ำจำกัดการรับรู้ของสมองให้โฟกัสที่จุดเดียว

และยังมีอีกหนึ่งการทดลอง พบว่ากลุ่มตัวอย่างตอบสนองต่อห้องขนาดเล็กและเพดานต่ำราวกับว่าตัวเองถูกคุมขังอยู่ในกรง ในขณะที่เมื่อได้อยู่ในห้องขนาดเล็กเท่ากัน แต่มีเพดานสูง กลุ่มตัวอย่างรับรู้ถึงความผ่อนคลายและเป็นอิสระมากกว่า

ผลการศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าระยะในแนวดิ่ง หรือความสูงของเพดานนั้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฝั่งยุโรป อเมริกา รวมทั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทยต่างให้น้ำหนักในการออกแบบห้องและบ้านแบบ Double Volume พร้อมเพดานสูงกันมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์การอยู่อาศัยที่ทำให้ใครหลายๆ คนปรารถนาจะครอบครอง

3.High Ceiling อิสระในการแสดงตัวตนที่สูงกว่า

ความโปร่งโล่งของพื้นที่ในแนวดิ่ง มีข้อได้เปรียบทั้งในแง่การตกแต่งและการใช้งานที่หลากหลาย ผู้อยู่อาศัยสามารถแต่งแต้มจินตนาการของบ้านในฝันได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการทาสีเพดานเข้มกว่าผนังโดยที่ห้องไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนโดนกดทับ การติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อเปิดให้แสงและสายลมเข้ามาช่วยระบบหมุนเวียนอากาศภายในบ้านอย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังเพิ่มบรรยากาศความสบาย ผ่อนคลาย พร้อมประหยัดพลังงานไปในตัวด้วย

นอกจากนี้ พื้นที่ห้องแบบ High Ceiling และ Double Volume Ceiling สามารถตกแต่งได้สวยงามกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทุกสไตล์ และไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น วินเทจ หรือคลาสสิค ห้องนั้นยังคงมอบบรรยากาศโอ่โถง ภูมิฐานให้กับผู้อยู่อาศัย สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน โดยผนังที่สูงยังสามารถปรับให้เป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะหรือของสะสม สร้างคาแรคเตอร์ให้แก่บ้านได้อีกด้วย

ความสูงพิเศษของเพดานแบบ High Ceiling และ Double Volume Ceiling นับเป็นความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือกว่า ซึ่ง Nirvana Beyond ได้ใช้แนวคิดของบ้านแบบ Double Volume Design ในการสร้างสรรค์พื้นที่ของบ้านให้เหมาะกับการใช้สอย จนเกิดเป็นความลงตัวของจุดเริ่มต้นความสุขสำหรับทุกคนในบ้าน

#NirvanaHome #NirvanaDaii #DetailsMakeMagic