10 ต้นไม้ปลูกในบ้าน ช่วยฟอกอากาศให้สดชื่น ดูแลง่าย
หากขึ้นชื่อว่าบ้าน ไม่ว่าเราจะพูดถึงบ้านเป็นหลัง มีพื้นที่สวนส่วนตัว หรือตึกแถวที่มีพื้นที่หน้าบ้าน ไปจนถึงห้องคอนโดที่มีระเบียง ก็ย่อมเป็นสถานที่ซึ่งเราอยากพักผ่อน หย่อนใจ และคลายความเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิต รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ และหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้บ้านเป็น“บ้าน”มากขึ้นก็คือ ต้นไม้
เราจึงอยากเสนอ 10 ต้นไม้ปลูกในบ้าน และบางชนิดยังสามารถนำมาปลูกในห้องนอนได้อีกด้วย นอกจากจะทำให้บรรยากาศของบ้านดูสวยงาม สบายตาแล้ว ยังช่วยเพิ่มออกซิเจน และกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ผู้อยู่สดชื่นทั้งทางความรู้สึก และทางร่างกายได้อีกด้วย ต้นไม้ที่เรานำมายังเป็นต้นไม้ที่เหมาะแก่การปลูกในบ้านทุกรูปแบบ ตั้งแต่บ้านหลังใหญ่มีพื้นที่ ไปจนถึงห้องคอนโดขนาดเล็กอีกด้วย
1. ลิ้นมังกร (Snake plant)
ลิ้นมังกร หรือหอกพระอินทร์ เป็นหนึ่งในไม้มงคล เหมาะกับเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านและในห้องนอน ที่มีความเชื่อว่าจะป้องกันอันตรายได้ ลิ้นมังกรเป็นพืชในสกุล Sansevieria ซึ่งเป็นสกุลของพืชใบประดับ มีถิ่นกำเนิดในภูมิประเทศเขตร้อนแห้งแล้ง ทำให้เขามีความแข็งแรง ทนทาน สามารถเติบโตได้เกือบทุกสภาพแวดล้อม ขยายพันธุ์ได้ง่าย อีกทั้งยังมีเสน่ห์ที่ลวดลาย และสีของใบที่จะแตกต่างไปตามแต่ละชนิด มีทั้งสีเขียวเข้ม ไปจนถึงสีเงินเลยที่เดียว
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น
แสงแดด: ลิ้นมังกรต้องการแดดรำไร
2. ไอวี่ (Ivy)
ไอวี่เป็นไม้เลื้อยอ่อนขนาดเล็กที่โตได้รวดเร็ว ความน่ารักของไอวี่อยู่ที่รูปทรงของใบรูปที่คล้ายรูปหัวใจ ไอวี่ยังมีหลากหลายสายพันธุ์แตกต่างกันตามถิ่นที่กำเนิดจากทั้งแถบฮอลแลนด์ และอังกฤษ ด้วยที่มานี้ ทำให้ไอวี่เป็นต้นไม้ที่นำมาปลูกในบ้านแล้วให้กลิ่นอายของต่างประเทศ และนิยมใช้ในการแต่งบ้านสไตล์ English Country นอกจากความน่ารักแล้ว ต้นไอวี่ยังสามารถช่วยลดเชื่อราในอากาศ ทำให้ปัญหาภูมิแพ้ลดลงได้อีกด้วย
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น หรือ 2-3 วันครั้ง
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร
3. เฟิร์น (Fern)
ตระกูลเฟิร์นเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย เหมาะเป็นต้นไม้ปลูกในห้องนอน และมีหลายหลายสายพันธุ์ หลากหลายรูปทรงให้เลือกตามความต้องการ และพื้นที่ปลูก เช่นปลูกเป็นต้นเล็กในกระถางตั้งโต๊ะไว้ในห้องนอน (เฟิร์นข้าหลวง เฟิร์นกนกนารี) ปลูกในกระถางตั้งพื้น พุ่มหนาสวยงาม (เฟิร์นบอสตัน เฟิร์นมะขาม) หรือปลูกเป็นกระถางห้อยให้ใบทิ้งตัว หรือสร้างกำแพงต้นไม้ปลูกในบ้าน (เฟิร์นสไบนาง เฟิร์นชายผ้าสีดา) เฟิร์นยังเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย แตกหน่อไว ราคาย่อมเยา
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: รดน้ำในดินชุ่มเสมอ
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร ไม่ควรให้โดนแดดโดยตรง
4. ว่านงาช้าง (Sansevieria cylindrica)
ว่านงาช้าง เหมาะกับเป็นต้นไม้ปลูกในห้องนอน พืชทรงสวยแปลกตา งาช้างเป็นพืชในวงศ์ Agavaceae ที่เป็นไม้ล้มลุก ซึ่งส่วนที่เราเห็นเป็นยอดก็คือลำต้นที่โผล่จากใต้ดินขึ้นมา ไม่มีใบ เหมาะแก่การปลูกในห้องนอน เพราะงาช้างสามารถช่วยฟอกอากาศในเวลากลางคืน หรือหากนำลงดิน ปลูกบริเวณบ้าน งาช้างก็สามารถโต และสูงได้ถึง 50-60 เมตร ด้านความเชื่อ เชื่อว่าจะปกป้องผู้ปลูกจากภัยอันตราย และเสริมศิริมงคลได้
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร โดดแดดได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงแดดบ่าย เพราะจะแรงเกินไป และทำให้ต้นงาช้างเกิดรอยไหม้ได้
5. พืชอวบน้ำ (Succulent)
หนึ่งในต้นไม้ที่นิยมปลูกในห้องนอน ที่มีความน่ารัก และสามารถปลูกในกระถางเล็กๆได้คงหนีไม่พ้นต้นไม้ในตระกูลพืชอวบน้ำ นอกจากพันธุ์ที่คนคุ้นตาอย่างกุหลาบหินแล้ว พืชอวบน้ำยังมีอีกหลายสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พืชอวบน้ำเป็นพืชที่กักเก็บน้ำไว้ในราก ใบ หรือลำต้น ทำให้เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะอวบ นุ่มนิ่ม ด้วยความสามารถในการเก็บน้ำนี้ ทำให้พืชอวบน้ำทนต่อสภาพความร้อนของทะเลทรายที่มีฝนตกน้อยครั้งได้ แต่เมื่อนำมาปลูกในไทยซึ่งมีอากาศร้อนชื้น การรดน้ำมากเกินไปจึงเป็นข้อที่ควรระวังอย่างยิ่ง เพราะความชื้นที่มากเกินไปจะให้ใบเน่า จนถึงต้นไม้ตายได้
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/3.5
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น และใช้วัสดุปลุกที่ไม่อุ้มน้ำมากเกินไป
แสงแดด: ต้องการแดด แต่ควรหลีกเลี่ยงแดดบ่าย เพราะจะแรงเกินไป และทำให้เกิดรอยไหม้ได้
6. กระบองเพชร (Cactus)
อีกหนึ่งพันธุ์พืชที่เป็นต้นไม้ปลูกในบ้านและห้องนอน ที่มาคู่กับพืชอวบน้ำก็คือ กระบองเพชร แม้ว่าจะมีถิ่นกำเนิดที่คล้ายกัน แต่กระบองเพชรนั้นเป็นพืชในวงศ์ Cactaceae ที่สามารถยืนต้นอยู่ได้ในทะเลทรายโดยการเก็บน้ำไว้ในลำต้น ทั้งยังเปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำ ทำให้เป็นที่รู้จักในด้านความทนทาน แต่เช่นเดียวกับพืชอวบน้ำ เมื่อนำมาปลูกในแถบร้อนชื้นย่อมต้องมีการดูแลที่มากกว่าการเลี้ยงในถิ่นกำเนิด โดยเฉพาะเรื่องความชื้นนั่นเอง
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/4
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น และใช้วัสดุปลุกที่ไม่อุ้มน้ำมากเกินไป
แสงแดด: ต้องการแดด แดดที่น้อยเกินไปจะทำให้กระบองเพชรไม่สวยเท่าที่ควร เช่นสีซีด ทรงผิดปกติ
7. บัวบกโขด (Stephania erecta)
บัวบกโขดเป็นอีกหนึ่งในต้นไม้ที่นำมาปลูกในบ้านและห้องนอน ที่ติดอันดับความฮิตในปี 2020 นี้ ด้วยรูปทรงที่มีเอกลักษณ์ ทั้งให้ความมินิมอล และใบกลมๆเล็กๆน่ารัก รวมถึงราคาย่อมเยา ถึงแม้ว่าการดูแลจะง่าย แต่แท้ที่จริงแล้วบัวบกโขดถือว่าเป็นต้นไม้ที่ทดสอบความอดทนได้พอสมควร เพราะแม้ว่าใบอ่อนจะสามารถงอกได้ง่าย แต่ก็ต้องใช้เวลา รวมถึงกว่าเจ้าหน่อจะอ้วนได้ใหญ่ก็ต้องใช้เวลานานมากๆ ทำให้มีบัวบกโขดชนิดที่เลี้ยงกันเป็นหลักสิบปี หรือ 30 ปี และมีราคาสูงถึง 30,000 บาทอีกด้วย
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: รดน้ำเมื่อดินหายชื้น
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร
8. เคราฤาษี (Spanish Moss)
เคราฤาษี หรือเคราฤษี เป็นพืชในวงศ์สับปะรด (Tillandsia usneoides) ที่ไม่มีราก จะมีเฉพาะรากแรกเกิดที่ยึดเกาะกับวัสดุที่อาศัย เช่นคอนไม้ หรือกิ่งไม้ จากนั้นจะไม่แตกรากอีก เคราฤาษีเหมาะกับการเลี้ยงเป็นพุ่มหนา และใส่กระถางลอยให้พุ่มทิ้งตัว เพราะหนึ่งในความสวยของเคราฤาษีที่คนนิยมมาเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านก็คือ ความพริ้วไหว เคราฤาษีเป็นไม้อากาศที่คนนิยมนำไปทำเป็นม่านต้นไม้เพื่อบังแดด เพราะยังให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ไม่เป็นพุ่มหนาทึบ และยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยจำกัดปริมาณฝุ่นได้ดี
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: วันละ 1 ครั้ง ในหน้าร้อนหากต้นดูแห้งสามารถรดน้ำเพิ่มได้
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร อยู่ในแดดได้
9. สับปะรดอากาศ (Tillandsia)
สับปะรดอากาศเป็นพืชในวงศ์สับปะรด ที่มีหลากหลายสี ทรง และหลายขนาด สับปะรดอากาศนอกจากจะดีกับปอดแล้วยังเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องดูแลมาก อีกทั้งยังใช้ประดับตกแต่งเพื่อเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านได้ง่าย เพราะว่าสับปะรดอากาศหลายพันธุ์ไม่ต้องนำลงดินจึงสามารถนำไปใส่ตระกร้าหวาย หรือถ้วยเซรามิคน่ารักๆได้
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/5
ความชื้น: พ่นน้ำอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หากลืมให้น้ำจนต้นแห้ง สามารถนำทั้งต้นไปแช่ในน้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ต้นคืนความชุ่มชื้นกลับมาได้
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร เพื่อคงความสดของสี
10. ต้นคล้า (Calathea)
พืชในตระกูลคล้า เป็นหนึ่งในวงศ์ของ Marantaceae ทำให้เราสามารถเห็นพืชที่มีลักษณะใบคล้ายกัน แต่มีสี และลวดลายของใบที่หลายหลาย นอกจากสีสันที่สดใสแล้ว คล้ายังมีความพิเศษที่ใบจะม้วนห่อตัวเพื่อรักษาน้ำค้างเอาไว้ และค่อยๆคลายตัวเพื่อรับแสงแดดในตอนบ่าย ต้นคล้าบางพันธุ์ยังเป็นพืชท้องถิ่นของไทย และหลายพันธุ์สามารถเพราะเลี้ยงเนื้อเยื่อในไทย ที่คนนิยมนำมาเป็นต้นไม้ปลูกในบ้าน และส่งขายออกต่างประเทศอีกด้วย
ความทน / เลี้ยงง่าย: 5/4
ความชื้น: รดน้ำให้มีความชื้นสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรชื้นจนเกินไป เช่น ทุก 3 วัน แต่ถ้าฝนตกควรเว้นเป็น 7 วัน
แสงแดด: ต้องการแดดรำไร