ว่าด้วยชีวิตการทำงานในแต่ละวัน มักจะมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ที่เป็นวงจรแห่งความรูทีน ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิตที่ต้องตื่นเช้าเป็นเวลา เร่งรีบเดินทาง การทำงานต้องให้เสร็จโดยเร็วภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยกองเอกสาร และผู้ร่วมงานมากหน้าหลายตา หลายคนก็แทบจะไม่ได้ขยับที่นั่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน
โฮมออฟฟิศสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากออฟฟิศทั่วไปได้อย่างไร
ว่าด้วยชีวิตการทำงานในแต่ละวัน มักจะมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ที่เป็นวงจรแห่งความรูทีน ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิตที่ต้องตื่นเช้าเป็นเวลา เร่งรีบเดินทาง การทำงานต้องให้เสร็จโดยเร็วภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยกองเอกสาร และผู้ร่วมงานมากหน้าหลายตา หลายคนก็แทบจะไม่ได้ขยับที่นั่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน จนเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว ทั้งในเรื่องของอารมณ์ ภาวะกดดันที่เกิดขึ้นจากการทำงาน ความเหนื่อยล้าทั้งจากการเดินทาง งานที่ทำหรือเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีหรือข้อจำกัดของหน่วยงานที่ท เหล่านี้คือผลจากสภาวะแวดล้อมที่อาจทำให้พนักงานออฟฟิศ หลายคนเกิด “โรค” โดยไม่รู้
ทั้ง โรคเครียด , โรค Office Syndrome , โรค CVC (Computer Vision Syndrome) , ภาวะการกดรัดเส้นประสาท , โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น ซึ่งโรคดังที่ยกตัวอย่างไปในปัจจุบันบางอาการนั้นเกิดขึ้นจนกลายเป็นโรคประจำตัวเรื้อรังที่ยากต่อการรักษาให้หายขาดได้ หลายบริษัทจึงเห็นความสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้พนักงานของตนเองต้องเจอกับโรคก่อนถึงวัยที่เขาต้องเกษียณ ในตอนนี้เองที่ทำให้เกิดโฮมออฟฟิศขึ้นมา
โฮมออฟฟิศถือเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดสรรในการใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วนและคุ้มค่ามากที่สุดประเภทหนึ่ง ด้วยความอเนกประสงค์ของอาคารที่สามารถใช้เป็นทั้งที่พักและที่ทำงานได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งการที่พนักงานได้ทำงานในโฮมออฟฟิศ นอกจากจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าห้องในสำนักงานทั่วไปแล้ว ด้วยสภาพแวดล้อมของตัวบ้านรอบด้านยังทำให้คนทำงานมีความรู้สึกเป็นอิสระ ไม่รู้สึกกดดัน ทั้งในเรื่องของเวลาและไลฟ์สไตล์ สามารถสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงานให้ Work Life Balance ได้อย่างลงตัว ทำให้ในยุคนี้โฮมออฟฟิศ ได้รับความนิยมค่อนข้างมากทั้งกับธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง รวมไปถึง SME ที่มีพนักงานไม่กี่คน
และอีกหนึ่งเหตุปัจจัยที่ด้วยแม้จะได้ชื่อว่าเป็นออฟฟิศ แต่กลับได้บรรยากาศกลิ่นอายของความเป็นกันเอง สบายๆผ่อนคลาย อบอุ่น คล้ายกับการได้อยู่บ้านของตัวเอง มีสวนสีเขียวธรรมชาติที่เพียงแค่เดินไปไม่กี่ก้าวพนักงานของคุณก็สามารถพักสายตาจากการจ้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ได้ทันที หรือวันไหนที่งานหนักจนต้องพักข้างคืน ก็อาจสร้างห้องดูหนังให้พนักงานแบบมิดชิดไร้เสียงรบกวนได้เช่นกัน นอกจากนี้ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนหย่อมส่วนกลาง พนักงานก็สามารถไปใช้งานได้ ถือเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมที่เราไม่ต้องออกเงินเพิ่มแต่อย่างใด และบรรยากาศลิฟท์ที่หนาแน่นไปด้วยคน และระยะการรอที่ยาวนานเพราะตึกนั้นๆรวมอยู่หลายสำนักงาน การรอแบบนี้ทุกวันอาจทำให้เกิดภาวะเบิร์นเอาท์กับพนักงานได้ง่าย แต่กับการทำงานในโฮมออฟฟิศ ปัญหาเหล่านี้จะหมดลง เพราะพื้นที่ความเป็นส่วนตัวที่แยกออกมาอย่างชัดเจน ทำให้ไร้สิ่งกังวลใจที่เคยเกิดขึ้นอย่างจำเจ
ความคิดสร้างสรรค์จึงถูกปลุกพลังได้ทุกวันด้วยบรรยากาศการทำงานที่แตกต่าง มีมุมสร้างสรรค์ที่ไม่ทำให้งานดูหน้าเบื่อ มีพื้นที่สีเขียวให้พนักงานเดินถอดรองเท้าชาร์จพลัง และโฮมออฟฟิศที่บ่งบอก DNA ขององค์กรได้ชัดเจน ก็ทำให้คนทำงานเกิดความภูมิใจในองค์กรได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.nirvanadaii.com