5 เทคนิค การใช้ช่องกระจกรับแสง เพิ่มแสงสวยให้แก่บ้าน
แสงจากดวงอาทิตย์คือสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต และแสงจากธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบบ้านเนอวานาทุกหลังที่สามารถส่งผลเชิงบวกต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยในบ้าน อีกทั้งเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีศักยภาพช่วยลดการใช้ทรัพยากรและค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 30-80 เลยทีเดียว และเพื่อให้ลูกบ้านใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ วันนี้เราจึงรวบรวม 5 เทคนิคในการใช้ช่องกระจกรับแสง เพื่อช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านมาฝากกัน
เทคนิค 1 : เสริมช่องกระจกรับแสงผ่านประตู-หน้าต่าง
หน้าต่างและประตูเป็นช่องทางหลักที่เปิดให้แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาถึงตัวบ้าน จึงควรออกแบบให้มีขนาดใหญ่พอดีกับขนาดพื้นที่และการใช้งานของห้องนั้นๆ รวมทั้งติดตั้งประตูและช่องกระจกรับแสงควรให้อยู่ในทิศทางที่สามารถรับแสงแดดได้อย่างพอเหมาะตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยควรทำความสะอาดเช็ดคราบสกปรกที่เกาะอยู่บริเวณช่องกระจกรับแสงอยู่เสมอ เพื่อให้แสงสว่างทะลุผ่านได้อย่างเต็มที่ และหากต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดตั้งผ้าม่านได้ โดยควรซึ่งอาจเลือกสีผ้าม่านให้เข้ากับสีห้อง และยังสามารถใช้วิธีเลือกแบบ 2 ชั้น คือเป็นผ้าทึบและผ้าโปร่ง เพื่อให้แสงจากธรรมชาติที่ส่องผ่านช่องกระจกรับแสง ยังส่องเข้ามาได้อยู่และสะดวกในการปรับแสงสว่างภายในห้องให้เหมาะสมกับช่วงเวลาและการใช้งาน
เทคนิค 2 : ใช้กระจกเงาสะท้อนแสงสว่าง
อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในบ้านคือการติดกระจกเงา ซึ่งไม่เพียงช่วยหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงสะท้อนแบบเท่าตัว รวมถึงยังช่วยเพิ่มความสว่างในซอกมุมของห้องที่แสงจากช่องกระจกรับแสงส่องไม่ถึงได้ด้วย การติดกระจกเงานั้นทำได้หลายรูปแบบ เช่น ติดตั้งกระจกเงาตลอดแนวผนัง นอกจากสะท้อนแสงแล้ว ยังสร้างความหรูหราในเวลาเดียวกัน หรือใช้กระจกสูงบานใหญ่ติดไว้ปลายสุดของโถงทางเดินเพื่อให้ดูว่าพื้นที่นั้นกว้างขึ้น หรือติดกระจกเงาข้างๆ หน้าต่างเพื่อลวงตาให้รู้สึกว่าช่องแสงนั้นใหญ่ขึ้น เป็นต้น
เทคนิค 3 : ทาสีบ้านด้วยโทนสีอ่อน
โดยหลักทั่วไปของการใช้สีบนพื้นผิว สีโทนเข้มจะดูดซับแสง ส่วนสีโทนอ่อนจะช่วยกระจายแสง ดังนั้นหากต้องการให้ห้องสว่างสดใสด้วยแสงธรรมชาติจึงควรใช้สีโทนอ่อน โดยเฉพาะกับพื้น ผนัง และฝ้า ซึ่งสามารถไล่โทนได้ตั้งแต่สีขาว สีครีม ไปจนสีเทาอ่อน นอกจากช่วยกระจายแสงได้ดีแล้ว ห้องโทนสีอ่อนยังง่ายต่อการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง สามารถเข้าได้กับทุกสไตล์
เทคนิค 4 : เพิ่มประกายสว่างด้วยการจัดวางตกแต่ง
เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องไปทั่วบริเวณ เราจำเป็นต้องคำนึงถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งด้วย สำหรับเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่อย่างตู้หนังสือหรือโซฟาควรวางให้ห่างจากช่องกระจกรับแสงและหน้าต่าง ควรวางอยู่ในองศาที่เฉียงจากแสงตกกระทบเพื่อไม่ให้เกิดเงามืดในห้องมากเกินไป ส่วนของประดับตกแต่งต่างๆ ควรเลือกใช้เป็นวัสดุที่มีความบางเบา เงาวาว หรือโปร่งใสก็จะช่วยให้พื้นที่ในบ้านยังคงรับแสงธรรมชาติได้เต็มๆ
เทคนิค 5 : ดูแลภูมิสถาปัตย์นอกบ้าน
นอกจากจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เปิดรับแสงธรรมชาติแล้ว เลือกหลอดไฟให้เหมาะกับห้อง และการดูแลภูมิสถาปัตย์ภายนอกก็เป็นการเอื้ออำนวยให้ความสว่างเปล่งประกายได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปลูกอยู่รอบบ้าน ที่อาจปิดช่องแสงทำให้แสงส่องมาไม่ถึงช่องกระจกรับแสงของบ้านได้ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งก้านใบไม่ให้รกครึ้มจนเกินไป เพื่อแสงแดดจะได้ส่องอย่างทั่วถึง ทั้งช่วยให้บ้านสว่างไสว ลดความอับชื้น และยังประโยชน์แก่พันธุ์ไม้เล็กๆ ที่อยู่ด้านล่างให้ได้รับอานิสงค์เพื่อการเจริญเติบโตที่งอกงามด้วย
สัมผัสแสงธรรมชาติได้ง่ายๆ กับบ้านเนอวานา อีกหนึ่งมาตรฐานการออกแบบที่เติมเสน่ห์ความงามให้ตัวบ้านพร้อมๆ กับเพิ่มความสุขและคุณภาพการใช้ชีวิตที่ดีตลอดไป
#DetailsMakeMagic #Design #NirvanaHome #NirvanaDaii #goo.gl/oEVbcq #instagram.com/nirvana_daii