ห้องทำงานในบ้าน” เทรนด์ของบ้านยุคใหม่ที่ต้องมี

ห้องทำงานในบ้าน” เทรนด์ของบ้านยุคใหม่ที่ต้องมี

โลกของการทำงาน ถ้าเฉลี่ยเวลาในวันๆหนึ่งเราใช้ไปแล้วประมาณ 8 ชม. ซึ่งงานบางอย่างจะเสร็จสิ้นได้ในทันที หรือบางคนอาจต้องหอบเอกสารกองโตกลับมานั่งทำงานที่บ้านต่อ การทำงานในรูปแบบ “Work From Home” แท้จริงไม่ใช่เริ่มมี แต่มีมานานมากแล้ว แต่ในยุคโรคระบาดที่ต้องเว้นระยะห่าง ลดการพบเจอ ทำให้หลายบริษัทต้องปรับแผนการทำงานใหม่ทั้งหมดเพื่อให้องค์กรยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าได้ การทำงานในรูปแบบ Work From Home จึงเริ่มเด่นชัด จนเกิดเป็นกระแสความนิยมไปทั่วโลก และในบ้านเราก็มีหลายองค์กรที่เริ่มใช้การทำงานในลักษณะนี้ ซึ่งในหลายๆผลสำรวจทั้งจากหน่วยงานจิตวิทยาของต่างประเทศ การสำรวจจากสำนักข่าวใหญ่เอง ล้วนมีผลสำรวจไปในทางบวกและพบว่าพนักงานส่วนใหญ่มีความเครียดลดลงเมื่อได้ทำงานภายในบ้านของตนเอง และคุณภาพงานส่วนใหญ่มากกว่า 70% มีผลที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนถึงขั้นบริษัทใหญ่ระดับโลกหลายบริษัท อนุมัติให้เป็นนโยบายถาวรให้พนักงานสามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ซึ่งกว่า 16% จากบริษัทใหญ่ระดับโลก เริ่มทำงานแบบ Work From Home แบบ 100% แต่ยังมีอีก 44% ยังคงทำงานที่ออฟฟิศอยู่ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมักเป็นงานหรือคนที่ทำงานในหน่วยงานของราชการที่จำต้องให้บริการกับประชาชนโดยตรง

รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปดังกล่าวยังส่งผลให้พฤติกรรมและการตัดสินใจมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับ Work From Home กันมากขึ้น โดยสภาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติหรือ “National Real Estate Development Council” กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ได้ทำการสำรวจและพบว่า ผู้สนใจซื้อบ้านกว่า 40% ต้องการบ้านที่มีพื้นที่เพิ่มขึ้น มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง มีห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์ สำหรับทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง ตั้งแต่พักผ่อน ทำงานและใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอย่างครบถ้วน ด้วยเหตุ Work From Home ได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยด้วย

มีพนักงานมากกว่าครึ่งที่ต้องการสัดส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอนและห้องทำงานในตัว เพื่อรองรับการทำงาน รวมถึงสามารถแบ่งเวลาร่วมกันกับครอบครัวได้ แตกต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอนมากกว่า ห้องน้ ห้องแต่งตัว ทำให้ปัจจุบัน ตัวเลขความนิยมของบ้านที่มีห้องทำงานจึงได้รับความนิยมสูง เช่นนี้เราจะเห็นได้ว่าเมื่อพฤติกรรมการทำงานเปลี่ยนไป พฤติกรรมการเลือกของคนก็ย่อมเปลี่ยนตาม ในด้านของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายราย ก็เปลี่ยนตามพฤติกรรมของคนในสังคมเช่นกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันเราจึงได้เห็นโครงการบ้านที่มีการจัดสรรห้องทำงานไว้ภายในตัวบ้านอย่างชัดเจน ซึ่งหากเทียบกับการออกแบบก่อนที่เทรนด์การ Work From Home จะเกิดขึ้น เราจะเห็นชัดได้ว่า บ้านส่วนใหญ่มากกว่า 60% จะไม่ได้มีการออกแบบห้องทำงานในบ้านไว้ แต่ไม่ใช่กับในปัจจุบันที่บ้านแทบจะทุกหลังล้วนมีห้องทำงานอยู่ภายในตัว มีการออกแบบอย่างเป็นสัดส่วนที่มอบความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน มีการออกแบบที่คำนวนทิศทางลมให้บ้านนั้นโปร่งไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินความจำเป็น มีการออบแบบช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงแดดเข้าห้องทำงานอย่างพอดี มีการจัดสรรพื้นที่ห้องทำงานให้หลบเลี่ยงเสียงรบกวน เหล่านี้คือเทรนด์บ้านที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในประเทศไทย แต่มันคือ MEGA TREND ของบ้านที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก

รายละเอียดเพิ่มเติม : www.nirvanadaii.com

#NirvanaDaii #NirvanaHome