เช็คลิสต์สร้างออฟฟิศสุขภาพดี

เช็คลิสต์สร้างออฟฟิศสุขภาพดี

คนทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลา 1 ใน 3 ของวันอยู่ในออฟฟิศ หรือบางคนอาจกินเวลามากกว่านั้น ด้วยช่วงเวลาที่ยาวนานนี่เองทำให้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ทำงานไม่ต่างจากการจัดระเบียบบ้าน โดยมี 4 เช็คลิสต์สำคัญในการส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะที่ดีสำหรับคนทำงาน หรือสร้างมาตรฐานด้าน Wellbeing ให้กับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อบรรยากาศและประสิทธิภาพการทำงาน

ควบคุมคุณภาพอากาศ

อากาศเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่สามารถรับรู้และส่งผลกระทบต่อความรู้สึกได้ โดยคุณภาพอากาศในออฟฟิศหมายรวมทั้งความสะอาดที่ปราศจากไรฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ และการไหลเวียนอากาศเพื่อลดความอับชื้น ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้หากไม่ควบคุมให้เหมาะสมจะเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองทางการหายใจ โรคหอบหืด และสร้างความอ่อนเพลียให้กับคนทำงานได้

โฮมออฟฟิศ(Home Office) จะมีข้อได้เปรียบในด้านการดูแลคุณภาพอากาศให้ดีได้ง่าย แต่การดูแลคุณภาพอากาศที่ดีอย่างสม่ำเสมอก็ยังเป็นกิจวัตรจำเป็นเช่นกัน โดยสามารถทำได้ดังนี้

• จัดเฟอร์นิเจอร์ไม่บังทิศทางไหลเวียนของอากาศ
• หมั่นเปิดหน้าต่างระบายความอับชื้น
• ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ
• ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ
• เติมกลิ่นหอมสร้างบรรยากาศและสมาธิ
• ปลูกต้นไม้ภายในอาคาร โดยเลือกพันธุ์ไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศอย่างลิ้นมังกร พลูด่าง เศรษฐีเรือนใน และเดหลี เป็นต้น

จัดแสงสว่างให้เหมาะสม

องค์ประกอบของแสงสว่างที่เหมาะสมกับคนทำงานควรมีทั้งแสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์ ผ่านการใช้งาน 2 ลักษณะ คือ

1.) ใช้เป็นแสงสว่างทั่วไป (Ambient light) นิยมใช้แหล่งกำเนิดแสงจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับแรก เนื่องจากมีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์ทำงานในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้า จากนั้นจึงเสริมด้วยหลอดไฟแบบ Daylight ที่มีโทนสีของแสงใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในจุดที่อับแสงก็จะช่วยให้คนทำงานรู้สึกสบายตา มีสมดุลทางอารมณ์ ไม่เครียดง่าย

2.) แสงสว่างเฉพาะจุดที่ทำงาน (Task light) เพราะแสงกับผลกระทบต่อสุขภาพเป็นเรื่องเกี่ยวโยงกัน โดยสามารถทำได้ด้วยการติดหลอดไฟเพิ่ม เช่น โคมไฟบนโต๊ะทำงาน เพื่อให้การมองเห็นมีความชัดเจน ช่วยถนอมสายตา ลดความเมื่อยล้า หรืออาการปวดหัวจากการเพ่งจ้องเป็นเวลานานๆ ให้กับคนทำงานในพื้นที่นั้นๆ

ลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์

โต๊ะ-เก้าอี้ คือสิ่งคุ้นเคยสำหรับคนทำงาน แต่น่าเสียดายที่น้อยคนจะมีโอกาสเลือกเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นให้เหมาะกับสรีระของตัวเอง เมื่อบวกกับพฤติกรรมที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่พอดีกับตัวเองซ้ำๆ เข้าก็ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวด หรือเป็นออฟฟิศซินโดรมในเวลาต่อมา

การอัพเกรดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสรีระหรือการยศาสตร์ เช่น Standing Desk, Monitor Arms หรือที่พักเท้า เป็นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่ผู้บริหารไม่ควรเพิกเฉย แม้ค่าใช้จ่ายเพื่อลงทุนจะค่อนข้างสูง แต่งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าบริษัทจะได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจที่เป็นพื้นฐานของประสิทธิภาพการทำงานทั้งหมด

สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริม Wellbeing

ในแต่ละวัน พนักงานอยู่กับความกดดันร้อยแปดพันอย่าง บางคนต้องแบกรับความเครียดทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน การดูแลสภาพจิตใจของพนักงานให้อยู่ในภาวะบวกนั้น ไม่เพียงส่งผลดีให้แก่บรรยากาศโดยรวมเท่านั้น แต่ยังพิสูจน์แล้วว่า เมื่อคนเรามีความสุข จะสร้างผลผลิตด้านการงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดสรรพื้นที่เพื่อกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อาทิ การจัด Group Activities อย่างโยคะ การจัดพื้นที่สำหรับการเล่นอื่นๆ หรือแม้แต่การสังสรรค์ร่วมกัน ซึ่งให้ผลพลอยได้ทั้งด้าน Wellbeing , Collaboration และ Teamwork ในเวลาเดียวกัน     

นอกจากนี้ยังควรสร้างบรรยากาศที่น่าทำงาน เช่น การนำทฤษฏีสีมาใช้ตกแต่งออฟฟิศเพื่อให้พนักงานรู้สึกสงบ มีสมาธิ หรือการจัดให้มี Recreation Zone สร้างความผ่อนคลายระหว่างที่อยู่ออฟฟิศ ซึ่งพบว่ามุมดังกล่าวเป็นสวัสดิการที่คนทำงานเจนใหม่ให้ความสำคัญเพื่อใช้ตัดสินใจเลือกทำงานกับสถานประกอบการนั้นๆ อีกด้วย

Nirvana @Work โฮมออฟฟิศที่พร้อมรองรับเทรนด์สุขภาพดี ด้วยการแบ่งพื้นที่ชีวิตส่วนตัวและการทำงานอย่างชัดเจน เพียบพร้อมฟังก์ชั่นเพื่อสร้างสรรค์สุขภาวะในออฟฟิศ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใช่สำหรับคนทำงานยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งคนและงานอย่างมีประสิทธิภาพ

#DetailsMakeMagic #Design #NirvanaHome #NirvanaDaii #NirvanaLivingRevolution #NaturalModern #Nirvana@Work