ปัจจุบัน กระแสการแต่งบ้านสไตล์แบบสแกนดิเนเวียกำลังเป็นที่นิยม เพราะมันเต็มไปด้วยความเรียบง่าย คลีน แต่สวยงามด้วยคู่สีและดีไซน์ที่สวยล้ำตลอดกาล ซึ่งสไตล์แบบนี้อาจจะเรียกได้ว่า "Mid Century Modern" (1950s - 1980s)
การแต่งบ้านสไตล์ Mid Century Modern ก็จะเน้นไปที่การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ หรือแม่สีเป็นหลัก โดยเน้นการจับคู่ให้มีวัตถุชนิดใดชนิดหนึ่งโดดเด่นออกมาในความเรียบง่าย สะท้อนถึงรสนิยมและความเรียบง่ายในการดำรงชีวิตภายในบ้าน โดยเน้นไปที่งานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูร่วมสมัย
สิ่งที่แตกต่างของเฟอร์นิเจอร์ Mid century Modern คือการดีไซน์ให้มีเส้นสายที่ดูเรียบง่าย (Simple Lines) โดยเน้นไปที่การลบส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป (Pure Forms) โดยวัตถุส่วนใหญ่จะเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง หรือรูปทรงเรขาคณิตที่เข้าถึงได้ง่าย
งานดีไซน์ฟอร์มของเฟอร์นิเจอร์จะเป็นแบบ organic forms คือ มุ่งไปที่การใช้งานระหว่างตัว human & natural และ friendly used เป็นหลัก วัสดุที่ใช้มีทั้งธรรมชาติอย่างเช่น หนัง ไม้ ผ้า โลหะสีเงินวาว ไปจนถึงวัสดุที่ทันสมัยขึ้นอย่าง พลาสติก โพลีเอสเตอร์ หรือไฟเบอร์กลาส แต่สิ่งที่ยังคงไว้คือ รูปทรงที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีรายละเอียดมากเกินไป เหมาะกับสัดส่วนสรีระของผู้ใช้งาน โดยประเทศที่โด่งดังในสไตล์นี้ เช่น เดนมาร์ก สวีเดน เยอรมัน
วันนี้เนอวานาจะพาไปดู 5 แบรนด์ ที่แทบจะเรียกได้ว่า เป็น ระดับ Icon ของ Mid Century ก็ว่าได้ ว่าจะมีอะไรกันบ้าง เผื่อหลายๆท่านจะไปศึกษาและประยุกต์ใช้กับการตกแต่งบ้านให้มีเอกลักษณ์มากขึ้นครับ
โคมไฟ Louis Poulsen PH5 by Poul Henningsen
Louis Poulsen (หลุยส์ โพลเซน) แบรนด์ไฟชื่อดังจากประเทศเดนมาร์กที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1958 โดยโคมไฟส่วนใหญ่ของแบรนด์ถูกออกแบบด้วยดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกหลายท่านตั้งแต่ Poul Henningsen, Arne Jacobsen และตัวที่ดังที่สุดในแบรนด์คือโคมไฟรุ่น PH (ย่อมาจาก Poul Henningsen) เป็นโคมไฟสไตล์แขวนเพดาน และ มีรุ่นที่ตั้งพื้น แต่เอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ จานโคมที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่ดูมีมิติ สวยงาม และกระจายแสงสีส้ม นวลๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
PH5 เรียกได้ว่าเป็นโคมไฟระดับ iconic ที่ถือว่าโด่งดังไปทั่วโลก และทุกบ้านที่ชื่นชอบ Mid Century จะต้องมีไฟรุ่นนี้ที่บ้านเสมอครับ
Poul Henningsen คือดีไซเนอร์ของโคมไฟรุ่น PH ทั้งหมด เค้าคือนักออกแบบ สถาปนิก นักเขียน ที่มีชื่อเาียงมากๆในประเทศเดนมาร์กมาจวบจนปัจจุบัน ผลงานชิ้นโบว์แดง คือ โคมไฟรุ่น PH ที่ทำให้มีการกระจายแสงด้วยแสงที่สวยงามได้ทั่วถึงจากศูนย์กลาง เรียกได้ว่าให้ความสำคัญทั้งเรื่องการใช้งาน ความเรียบง่ายต่อชีวิต และสุนทรียศาสตร์มาบรรจบกันอย่างไร้ที่ติ
Vitra (วิทร้า) ตำนานเก้าอี้เปลี่ยนโลกจากสวิตเซอร์แลนด์!
นี่คือ แบรนด์ที่ผลิตเก้าอี้พลาสติกเป็นแบรนด์แรกของโลก และที่สำคัญมันมาตั้งแต่ปี 1967!
Vitra เป็นแบรนด์ที่ตั้งใจพัฒนาฟอร์มของ "เฟอร์นิเจอร์" ทั่วๆไป โดยระดมดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกหลายสาขามาร่วมงานกัน งานแทบทุกชิ้นได้รับการยกย่องให้เป็นงานดีไซน์ระดับ Icon ของยุคสมัย และอีกหลายๆชิ้นก็สวยล้ำสมัย จนเทคโนโลยีการผลิตตามไม่ทัน ขนาดที่ว่า product ของ Vitra ในยุค 70s ปัจจุบันยังสวยงามล้ำสมัยอยู่เช่นเดิม
ชิ้นงานคลาสสิกตลอดกาลขึ้นหิ้งของ ‘วิทร้า’ ที่คนในวงการออกแบบรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็คือเก้าอี้ต่างๆ ที่ถือได้ว่าเป็นระดับ Icon ของวงการหลาย ขนาดที่ว่าออฟฟิศ Architecture, Interior ยังต้องซื้อมาใช้งานกัรภายในออฟฟิศ
เฟอร์นิเจอร์ของ Vitra ยังไม่เพียงที่จะดีไซน์ที่สะดุดตา เห็นครั้งเดียวจำได้ แต่ยังถูกออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่สมเหตุสมผล ทนทาน ที่สำคัญมันถูกกลั่นกลองมาจากสมองของดีไซเนอร์ระดับหัวกะทิของโลก ที่ระดมสมองกันออกมาแล้วว่า ดีไซน์ลักษณะนี้ วัสดุเหล่านี้ โครงสร้างแบบนี้ และจับคู่กับการนั่งด้วยสรีระแบบนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดต่อมนุษย์คนๆคึง (ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกคิดออกได้ตั้งแต่ 70 ปีที่แล้ว)
อยากให้ไปลองดูเก้าอี้ Icon ของ Vitra เช่น
Panton Chair — S Chair,
Eames Plastic Armchair RAR Charles & Ray Eames, Plywood Group LCW Charles & Ray Eames
Pin
Braun (บราวน์) แบรนด์จากประเทศเบอรมัน ได้ก่อตั้งโดย คุณ Max Braun วิศวกรเครื่องกล ช่วงแรกๆ(พ.ศ. 2464)เป็นร้านช่างกลขนาดเล็กในเมืองแฟรงค์เฟิร์ตในปี
ต่อมาในปี พ.ศ. 2466 Braun ก็เริ่มสายการผลิตชิ้นส่วนสำหรับวิทยุ จนในที่สุดภายในปี พ.ศ. 2471 Braun ก็เติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้วัสดุพลาสติกมาปฏิวัติการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
ในปี 2472 เพียง 8 ปีหลังจากที่เขาเริ่มเปิดร้าน Max Braun เริ่มที่จะทะเยอทะยานในการผลิตรายการวิทยุในประเทศเยอรมัน และภายในระยะเวลาไม่นาน Braun ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวิทยุชั้นนำของเยอรมนี การดำเนินกิจการก้าวหน้าพัฒนาต่อไปด้วยดี โดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่รวมวิทยุกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิลเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกในปี 2475 จนประสบกับ สงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ Braun สามารถกลับมาใหม่ได้ในปี 2487 ภายหลังสงคราม Braun ได้กลับมาผลิตวิทยุและอุปกรณ์เครื่องเสียงชั้นสูงอีกครั้ง และในไม่ช้าก็กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการโดยเฉพาะเครื่องเล่นเสียงที่มี "ความเที่ยงตรงสูง" (เครื่องเล่นเสียงไฮไฟ)
โดยในปี 2499 Braun ได้เปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียง SK4 ที่มีชื่อเสียงซึ่งออกแบบโดย Dieter Rams นักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมกับ Hans Gugelot ผู้บุกเบิกการออกแบบระบบ และเป้นอาจารย์ด้านการออกแบบที่ Ulm School of Design ต่อมาในไม่ช้า Dieter Rams ก็กลายเป็นนักออกแบบที่ทรงอิทธิพลแห่งยุค และโด่งดังที่สุดของ Braun
Dieter Rams เป็นนักออกแบบคนสำคัญในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการออกแบบในช่วงปลายทศวรรษ 1950 และ 1960 และในที่สุด ก็ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบ (Chief Designer Officer) ของ Braun อิทธิพลการออกแบบของ Dieter Rams ก็มีลายเซ็นที่ชัดเจนในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ อาทิ เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง SK 4 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกของ Braun
เรียกได้ว่าเป็นเครื่องเสียงที่มีการออกแบบที่เรียบง่าย สวยงาม แต่คงไปด้วยคุณภาพสูงตามสไตล์ German Technology อันลือลั่นไปทั่วโลก
"Grundig" ผู้ผลิตตู้ TV. Sideboard ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมัน
Grundig ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในปีที่สงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลง ในปี 1945 โดย Max Gruding ผู้ซึ่งบริหารมาเป็นเวลานานใน ตั้งแต่ตอนที่บริษัทเริ่มต้นด้วยการ ผลิตและขายเครื่องรับวิทยุขนาดเล็ก วิทยุของ Grundig ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อน จวบจนในปี 1950 บริษัทเล็กๆ ของ Max Grundig เริ่มเพิ่มและพัฒนาศักยภาพ โดยการผลิตรายการโทรทัศน์ จึงเป็นที่มาของตู้ TV Sideboard Grundig ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ความสวยงามของ Grundig คือ การออกแบบ Sideboard ระดับตำนาน ผสมผสานความคลาสสิกของ Oak Wood, teak Wood, Cherry Wood ทำให้งานออกแบบมีโทนที่อบอุ่น สวยยาวนาน ตั้งไ้ตรงมุมไหนของบ้านก็เป็นที่น่าจดจำ ขอแนะนำว่าถ้านำมาผสมผสานกับ เครื่องเสียง Braun รับรองเลยว่า บรรยากาศในบ้านของคุณจะไม่เหมือนเดิมเลยล่ะ
Herman Miller แบรนด์ที่มีอายุมามากกว่า 100 ปี โดยก่อตั้งที่ รัฐมิชิแกน, ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1905 (มากกว่า 115 ปี)
โดนงานออกแบบดำเนินงานโดย Design Director สถาปนิก George Nelson ที่ฝากผลงานอันเลื่องชื่อที่ Vitra ด้วยผลิตภัณฑ์ Wall ball clock, Sunburst clock
จากนั้น George Nelson ได้ชักชวนเหล่า Designer เจ๋งๆทั่วทุกมุมโฃกต่างๆ ให้มาร่วมงานด้วย เช่น Charles and Ray Eames(ผู้ออกแบบเก้าอี้ระดับตำนานในรูป), Isamu Noguchi และ Robert Propst ซึ่ง Designer เหล่านี้ได้เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Herman Miller อีกทั้งในปัจจุบันสินค้าหลายชิ้นของแบรนด์ในปัจจุบันยัง active ผลงานของกลุ่มดีไซนอร์เหล่านี้อยู่เลย เรียกได้วาผลงานอมตะสุดๆ
ในรูป คือ เก้าอี้ Eames Lounge & Ottoman เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในบรรดางานดีไซน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดภายใต้แบรนด์ Herman Miller เห็นดีไซน์ล้ำๆ คลาสสิคแบบนี้ บอกเลยว่าเก้าอี้ตัวนี้มีอายุครบรอบ 65 ปีเข้าไปแล้ว ในปี 2021 นี้
เก้า Eames Lounge & Ottoman ที่ผลิตขึ้นรุ่นแรกนนั้นใช้ไม้ Rosewood สำหรับหุ้มโครงเก้าอี้ (veneer) แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1991 ทางบริษัท Herman Miller ได้เปลี่ยนมาใช้ไม้ Cherry และ Walnut แทน เนื่องจากทางบริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เพราะการผลิตโดยใช้ไม้ Rosewood นั้นหมายถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ไม้จากป่าเขตร้อนเป็นจำนวนมาก ทำให้ Herman Miller ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และหาทางปรับแก้ในที่สุด
ยังมี product ของ Herman Miller สวยๆและคุณภาพดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ทำงาน Aeron Chair ที่โด่งดังไปทั่วโลก เรื่องการออกแบบให้ตรงตามสรีระผู้ใช้ และข้าวของเครื่องใช้ในบ้านอีกมากมายเลยล่ะครับ