Pet-Friendly Workplace เมื่อเจ้าสี่ขาขอมาทำงานด้วย

ช่องทางอื่น ๆ

21/02/2020

อาจกล่าวได้ว่า หมา แมว และบรรดาสัตว์เลี้ยงต่างๆ คือแหล่งกำเนิดความสุขเล็กๆ ของคนบางกลุ่ม และความผูกพันดังกล่าวทำให้เกิดเทรนด์ที่เรียกว่า Pet-Friendly Office ที่ไม่ว่าจะมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในออฟฟิศหรืออนุญาตให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงมาที่ทำงานได้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นจำนวนมากโดยเฉพาะบริษัทในต่างประเทศ โดยพบว่านโยบายดังกล่าวส่งผลดีต่อพนักงานและผลการทำงานมากมายในฐานะ Emotional Support ช่วยให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังสงสัยว่าเทรนด์นี้จะเหมาะกับออฟฟิศหรือไม่ เรามีคีย์การพิจารณาเพื่ออนุมัติและสร้างสรรค์นโยบายที่เป็นมิตรต่อคนทำงานและสัตว์เลี้ยงมาฝากกัน

กระแสนิยมพาลูกน้องสี่ขามาทำงานด้วย

ความตื่นตัวเรื่อง Wellbeing เพื่อสร้างสุขภาวะในที่ทำงาน ตลอดจนให้ความสำคัญต่อสภาพจิตใจหรือความพึงพอใจของคนทำงาน ทำให้ตัวเลขของการพาสัตว์เลี้ยงมาที่สำนักงานด้วย หรือ Pet-Friendly Workplace สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยโดยองค์กรพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคล “Society for Human Resource Management (SHRM) พบว่า Pet-Friendly Office ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นจาก 4% ในปี 2014 กลายเป็น 9% ในปี 2018 โดยเฉพาะในเขตเมืองเศรษฐกิจอย่างมหานครนิวยอร์กมีกว่า 178 บริษัทที่อนุญาตให้เจ้าสี่ขามาทำงานด้วยได้

ในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Amazon กลายเป็น Role Model ของกระแสออฟฟิศเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และขยายวงกว้างสู่เทรนด์การทำงานในโลกยุคใหม่ นิตยสาร Time เคยให้ข้อมูลว่า สำนักงานใหญ่ของ Amazon ที่เมืองซีแอตเทิลนั้น มีสุนัขมากกว่า 1,000 ตัวเข้ามาทำงานตอกบัตรพร้อมเจ้านายของมัน ยิ่งไปกว่านั้นงานวิจัยจากสหราชอาณาจักรยังพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานออฟฟิศยินดีพิจารณาย้ายงานหากบริษัทนั้นๆ อนุญาตให้พวกเขานำสัตว์เลี้ยงมาที่ทำงานได้

A cat sitting on a bedDescription automatically generated

เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง ดีต่อใจ ดีต่องาน   

การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ๆ ระหว่างทำงานส่งผลดีต่อมนุษย์เงินเดือนในหลายด้าน หลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นหนึ่งคืองานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิซซูรี่-โคลัมเบียพบว่าเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเราได้อยู่ใกล้สุนัข ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข เช่น เซราโทนิน ออกซิโทซิน โปรแลคทิน ออกมา ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะไปช่วยลดความเครียด เพิ่มความสามารถในการผ่อนคลาย และปรับอารมณ์ด้านลบให้กลับมาดีเหมือนเดิม จึงไม่น่าแปลกใจที่พนักงานใน Pet-Friendly Workplace จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขามีความสุขมากขึ้นเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงาน

งานวิจัยในแง่ความคิดสร้างสรรรค์และประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในองค์กรที่มีนโยบาย Pet-Friendly หลายสำนักพบว่ามีผลลัพธ์ที่ดีใกล้เคียงกัน แถมสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นยังเป็นตัวเชื่อมโยงให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปในทิศทางบวก มีความยืดหยุ่น ช่วยให้การสื่อสารภายในทีมเป็นไปได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อทีมที่สูงขึ้นกว่าการทำงานระหว่างคนกับคนเพียงอย่างเดียว

 

A person standing next to a dogDescription automatically generated

ข้อพิจารณาก่อนใช้นโยบาย Pet-Friendly  

อย่างไรก็ตาม การนำนโยบายอนุญาตให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงมาที่ทำงาน ต้องพิจารณาในหลายมิติเพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเล็กๆ ขององค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนี้

     1.  ความเห็นชอบของพนักงาน: ไม่ว่าองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ควรทำแบบสำรวจความคิดเห็นก่อนเริ่มนโยบายเสมอ เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นความชื่นชอบเฉพาะบุคคลจึงทำให้ทุกเสียงสะท้อนมีความหมาย หากพบว่ามีพนักงานบางส่วนไม่เห็นด้วย แนวทางที่ดีที่สุดที่หลายบริษัทมักปฏิบัติกันก็คือจัดเป็นวันกิจกรรมพิเศษให้พนักงานพาสัตว์เลี้ยงมาสนุกร่วมกันเพื่อดูผลลัพธ์ต่อไป

     2. พื้นที่และฟังก์ชั่น: ประชากรที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลต่อพื้นที่และฟังก์ชั่นของสำนักงาน ต้องแน่ใจว่ามีพื้นที่รองรับเพียงพอภายใต้ปัจจัยด้านความสะอาดและถูกสุขอนามัย ความปลอดภัยสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพอย่างอาการแพ้ขนสัตว์และบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อธุระในบริษัท มีรั้วรอบขอบชิดให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในอาณาเขตที่กำหนดเพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานหรือสร้างผลกระทบต่อสังคมที่อยู่ข้างเคียง

     3. ผลกระทบต่องาน: การมีสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ จะสร้างประโยชน์ต่อการทำงานหลายประการ แต่ในทางตรงข้ามก็อาจสร้างผลเสียต่องานได้ เช่น ตารางงานรวนเพราะมั่วแต่เล่นกับบสัตว์เลี้ยง ขาดสมาธิระหว่างประชุมเนื่องจากสุนัขส่งเสียงเห่า หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จนคนทำงานรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นจึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่านโยบายดังกล่าวช่วยให้องค์กรเติบโตในภาพรวมได้อย่างไร 

A brown and white dogDescription automatically generated

     4. กฎระเบียบและความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง: การออกระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนจะช่วยให้การอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานอย่างการเทรนสัตว์เลี้ยงให้อยู่ในคำสั่ง หรือการฉีดวัคซีนจำเป็นให้สัตว์เลี้ยงสม่ำเสมอ เพื่อเป็นแนวทางป้องกันกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิดได้อีกด้วย

สัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์มาช้านาน และยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในยุคที่คนต้องการมีลูกน้อยลง หรืออาจกล่าวได้ว่าสัตว์เลี้ยงคือส่วนเติมเต็มของการดูแลซึ่งไม่เพียงทาสผู้ซื่อสัตย์ในบ้านเท่านั้น แต่เจ้าตัวน้อยสี่ขายังพร้อมเคียงข้างมนุษย์ในวันทำงานที่ทำให้หลายคนแฮปปี้กว่าเดิม

แน่นอนว่าเมื่อคนทำงานมีความสุขเป็นพื้นฐานแล้ว การก้าวต่อในหน้าที่การงานย่อมสัมฤทธิ์ผลได้ไม่ยาก และการเติบโตขององค์กรย่อมตามมาในท้ายที่สุด และทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Pet-Friendly Office เป็นเทรนด์น่าจับตามองที่สุดในโลกแห่งการทำงานยุคใหม่ในเวลานี้

#DetailsMakeMagic #NaturalElement #Fulfilling #Happiness #NirvanaHome #NirvanaDaii