ทำไมคนรุ่นใหม่จึงเลือกบ้านติดถนนใหญ่บางนา

ช่องทางอื่น ๆ

20/12/2021

ทำไมคนรุ่นใหม่จึงเลือกบ้านติดถนนใหญ่บางนา

ความคุ้มค่าของโครงการติดถนนใหญ่ที่กำลังพัฒนาไปไกลมากกว่าที่เป็น “ลงทุนวันนี้ จึงเท่ากับการลงทุนเพื่ออนาคต” เหตุผลของคนซื้อบ้านในยุคนี้ ที่ต้องเลือกติดถนนใหญ่ ปลอดภัย และมูลค่าเติบโตในระยะยาว

ทำเลติดถนนใหญ่ ที่สุดของทำเลในฝันของบ้านหลังใหม่สำหรับคนยุคนี้ เพราะการใช้ชีวิตในซอยลึก ไม่ตอบโจทย์กับพาร์ทแห่งความเป็นเราอีกต่อไป และในด้านของการลงทุนแน่นอนว่าทำเลที่อยู่หน้าถนนย่อมมีมูลค่าสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว นับตั้งแต่วันที่เราเป็นเจ้าของ เพราะหากเรานับถอยหลังไปตั้งแต่ปี 2544 อัตราการเติบโตของราคาที่ดินนั้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาทั้งรถไฟฟ้า ขยายเลนถนน ทาวน์ชิปใหม่ๆสร้างขึ้นจำนวนมาก การเดินทางจากนอกเมืองเข้าสู่ในเมืองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะในเมื่อบ้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ เดินทางเวลาไหนก็สะดวกและเชื่อมต่อง่ายที่สุด

ตัวอย่างในย่านที่มีการพัฒนาที่ก้าวกระโดด “บางนา-ตราด” ถ้าเป็นเมื่อก่อนในหลายสิบปี ความรู้สึกในย่านบางนาคือย่านที่อยู่นอกเมืองและเดินทางลำบาก แต่เวลาผ่านไปการพัฒนาเข้าถึงจนมีทาวน์ชิปสำคัญ อย่างเช่น เมกะบางนา , เซ็นทรัล บางนา , สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ อีกทั้งรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อตั้งแต่ใจกลางเมืองสู่ย่านสำคัญอย่างสุขุมวิท ยิงตรงสู่บางนาด้วยเวลาไม่นาน การเติบโตที่ก้าวกระโดดตลอด 10 ปีที่ผ่านมาทำให้ราคาอสังหาฯโดยเฉพาะราคาที่ดินติดถนนใหญ่นั้น มีการปรับตัวอยู่ราวๆ 5-15% ต่อรอบปีที่มีการประเมินราคาใหม่ เปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดในย่านถนนบางนา-ตราด ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง 2จังหวัดใหญ่นั่นคือ กรุงเทพมหานคร (เขตบางนา) และสมุทรปราการ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่ดินใกล้ถนนใหญ่บางนา-ตราด มีราคาประเมินที่ดินเฉลี่ย 90,000-130,000 บาทต่อตารางวา ในรอบปี 2551-2554 จากนั้นได้มีการปรับราคาใหม่ขึ้นเป็น 140,000-170,000 บาทต่อตารางวา ในช่วงรอบปี 2555-2558 และล่าสุดกับราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2559-2562 มีราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 190,000 บาทต่อตารางวา และในปีหน้าที่มีการปรับราคาใหม่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 10%ของภาพรวมของราคากลาง

ด้วยศักยภาพที่ไปต่อได้แบบไร้ขีดจำกัดของย่านบางนา ทำให้มีเมกะโปรเจ็กต์ที่เสริมศักยภาพในพื้นที่อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการมิกซ์ยูส ที่มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 317,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ามูลค่าโครงการที่เกิดในทำเล CBD ที่มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 216,200 ล้านบาท เหล่านี้คือบทสะท้อนความเชื่อมันในศักยภาพทำเลบางนา ที่มีโครงการจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ หรือแม้แต่โครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรือ EasternEconomic Corridor (EEC) นอกจากนี้ยังมีเมกะโปรเจ็กต์จากภาคเอกชนที่เพิ่มเติมหลังจากเมกะบางนาได้เกิดขึ้น อาทิเช่น

1.Bangkok Mall จากกลุ่มเดอะมอลล์ มูลค่าโครงการราว 50,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโครงการระดับ Flagship Project และได้ทำการตอกเสาเข็มไปเรียบร้อยแล้ว

2. Megacity ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการอย่าง “เมกาบางนา” โดยกลุ่มเดอะมอลล์เช่นกัน เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่จะมีพื้นที่รวมกว่า 400 ไร่จากภาพรวมทั้งหมด เห็นได้ชัดเจนว่า ย่านบางนาไม่หยุดอยู่แค่วันนี้ บางนาคืออนาคตแก่งการพัฒนา การเลือกซื้อบ้านอยู่ในย่านนี้จึงเป็นการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน ในย่านที่จะดีขึ้นกว่าวันแรกที่คุณเข้ามาอาศัยอย่างแน่นอน

#ซื้อตอนนี้ดีที่สุด #GoodTimeToBuy

#NirvanaDaii #NirvanaHome

สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่ม>>nirvana.ly/NirvanaGiveYouMore-fb

​​​​​​​

Photo: https://www.atmegacity.com/the-mega-vision

facebook-msn