Lagom การใช้ชีวิตอย่างพอดี...ที่ดีพอ
สวีเดนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน แถมยังขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตในระดับที่ดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนความอยู่ดีมีสุขของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ครอบคลุมตั้งแต่ความเป็นอยู่ สุขภาพ การศึกษา การทำงาน สิ่งแวดล้อม จนถึงสิทธิเสรีภาพทางสังคมและการเมือง อีกส่วนมาจากปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ชาวสวีดิชเรียกว่า Lagom (ลา-กอม) แปลว่าไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่เป็นความพอดีๆ ที่นำไปสู่ความสมบูรณ์แบบเฉพาะตัว
ที่มาความคิด “พอแล้วดี”
Lagom เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในภาษาสวีดิชอธิบายถึงจำนวนที่กำลังพอเหมาะพอดี มีคอนเซ็ปต์มาจากประเพณีดั้งเดิมของชาวไวกิ้งที่นิยมปิดท้ายการประชุมหรือการร่วมตัวกันด้วยการแชร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพวกเขาจะเทเครื่องดื่มลงในภาชนะเพียงชิ้นเดียวแล้วค่อยๆ ส่งต่อให้แต่ละคนได้ดื่ม ซึ่งทุกคนจะทราบดีว่าตัวเองนั้นควรดื่มแบบพอประมาณแค่ไหนเพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนจะได้สัมผัสรสชาติแบบเดียวกัน โดยเรียกการเวียนแก้วแบบนี้ว่า “Laget Om” แปลว่า “รอบๆ กลุ่ม” นั่นเอง
บางคนอาจสงสัยว่า แล้ว Lagom ต่างจาก Hygge เทรนด์การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ที่มีต้นกำเนิดจากเดนมาร์คตรงไหน Lagom นั้น เน้นที่ความพอดี รู้จักที่จะหยุดเมื่อเพียงพอ ในขณะที่ Hygge เป็นการสร้างวิถีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย สงบและอบอุ่น
พอดีอย่างไรในชีวิตประจำวัน
“Lagom är bäst (ความพอดีคือดีที่สุด) För mycket och för lite skämmer allt (มากเกินไปและน้อยเกินไปทำให้เสียไปซะทุกอย่าง)” เป็นสุภาษิตของสวีเดนที่บ่งบอกถึง “ทางสายกลาง” ที่ลูกหลานชาวไวกิ้งต่างพร้อมใจกันดำเนินรอยตามเพื่อค้นพบว่าความอยู่ดีมีสุขเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันเพียงรู้จัก “ความพอดี” ไม่ว่าจะกินอะไร ใช้อย่างไร แต่งตัวแบบไหน ทำงานยังไง เราสามารถใช้แนวคิด Lagom ประยุกต์ได้ ภายใต้ 3 คีย์เวิร์ดคือ “สมดุล ยั่งยืน และพึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
ในการทำงานสไตล์ Lagom เป็นแนวคิดที่ส่งเสริม Work-Life Balance ได้อย่างดี ซึ่งคนสวีเดนพิสูจน์แล้วว่าวิถีการทำงานบนพื้นฐานความพอดี เน้นคุณภาพเหนือปริมาณ อาทิ เข้าออกงานตรงเวลา ทำงานเต็มประสิทธิภาพ และหยุดเมื่อถึงเวลาที่ควรพัก การบริหารเวลาให้เหมาะสมกับธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์งานที่ดีกว่า ในเวลาที่น้อยลง มีเวลากับตัวเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจกัง GDP ต่อหัวได้ในลำดับที่ 12 ของโลก พร้อมๆ กับมีค่าดัชนีความสุขสูงติดอันดับท็อป 10 ของโลกมาโดยตลอด
Lagom Living กับบ้านที่พอดี
แนวคิด Lagom ยังมีอิทธิพลต่อที่อยู่อาศัยซึ่งให้ความสำคัญกับ Well-being เป็นดัชนีประเมินค่าของบ้านแต่ละหลังมากกว่าใช้ราคาเป็นที่ตั้ง และเน้นแนวคิด “Quality over quantity” หรือการเลือกของแต่ละชิ้นโดยประเมินที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ โดย Lagom เป็นแนวคิดที่เน้นบาลานซ์ เพื่อการให้ชีวิตนั้นง่ายขึ้น รูปแบบการตกแต่ง จึงมุ่งที่จะจัดสรรสิ่งรอบกายให้เข้าถึงได้ง่าย และใช้งานได้อย่างสะดวก ลดความซับซ้อนในชีวิตลง โดยพาเล็ตต์สี จะเน้นโทนกลางๆ หรือ Neutral เพื่อลดแพทเทิร์นหรือสิ่งเร้าสายตาให้น้อยที่สุด อาจมีเฟอร์นิเจอร์เป็นจุดโฟกัสเพียงหนึ่งชิ้น และเติมความอบอุ่นให้กับบรรยากาศด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หินอ่อน หวาย ผ้าเป็นต้น
แม้ Lagom จะเน้นความเรียบง่าย แต่เป็นความเรียบง่ายที่จุดที่สมดุลกับการใช้ชีวิตอย่างเหมาะเจาะ Minimalism จึงมักเป็นแนวทางหลักที่นำมาใช้ในการตกแต่ง แต่ก็ไม่ถึงกับน้อยจนสุดโต่ง โล่งจนขาดความเป็นบ้าน เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ไม่เพียงแค่เน้นดีไซน์ที่สวยงามเรียบง่าย แต่ต้องมีประโยชน์ใช้สอยได้เต็มที่ จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่สต็อคข้าวของเกินกว่าที่ใช้ เพิ่มพื้นที่ว่างให้โปร่งโล่ง และดูแลทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ส่วน Accessories หรือของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ จะใช้เป็น Gimmick สร้างบรรยากาศสดใสมีชีวิตชีวา อาทิ การแต่งผนังเพียงเล็กน้อย โดยเลือกชิ้นที่เข้ากันได้ดีกับบรรยากาศโดยรวม เป็นต้น
ความพอดี เป็นจุดที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อหา Sweet spot หรือจุดที่พอดีและลงตัวที่สุดซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน ในทุกกระบวนการออกแบบบ้านของโครงการเนอวานา จึงต้องคิดอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการอยู่อาศัยอย่างละเอียด เพื่อจัดสรรพื้นที่ให้แก่บ้านแต่ละแบบให้เข้ากับครอบครัวยุคใหม่ที่มีความต้องการแตกต่างกันไป แต่มุ่งค้นหาสิ่งเดียวกัน คือ บ้านที่จะมอบความสุขที่ยั่งยืน
ด้วยแนวคิด Living Revolution เราเชื่อว่าการปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบ “พอดีๆ” จะนำพาให้เกิดภูมิคุ้มกันความสุขที่ส่งต่อถึงกันในครอบครัว และขยายสู่สังคมรอบข้างให้งอกงามได้ไม่รู้จบ
#NirvanaLivingRevolution #RevolutionOfModernDesign #NaturalModern