Lagom การใช้ชีวิตอย่างพอดี...ที่ดีพอ

Other channel

12/09/2019

Lagom การใช้ชีวิตอย่างพอดี...ที่ดีพอ

สวีเดนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน แถมยังขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตในระดับที่ดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนความอยู่ดีมีสุขของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ครอบคลุมตั้งแต่ความเป็นอยู่ สุขภาพ การศึกษา การทำงาน สิ่งแวดล้อม จนถึงสิทธิเสรีภาพทางสังคมและการเมือง อีกส่วนมาจากปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ชาวสวีดิชเรียกว่า Lagom (ลา-กอม) แปลว่าไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่เป็นความพอดีๆ ที่นำไปสู่ความสมบูรณ์แบบเฉพาะตัว

ที่มาความคิด “พอแล้วดี”

Lagom เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในภาษาสวีดิชอธิบายถึงจำนวนที่กำลังพอเหมาะพอดี มีคอนเซ็ปต์มาจากประเพณีดั้งเดิมของชาวไวกิ้งที่นิยมปิดท้ายการประชุมหรือการร่วมตัวกันด้วยการแชร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพวกเขาจะเทเครื่องดื่มลงในภาชนะเพียงชิ้นเดียวแล้วค่อยๆ ส่งต่อให้แต่ละคนได้ดื่ม ซึ่งทุกคนจะทราบดีว่าตัวเองนั้นควรดื่มแบบพอประมาณแค่ไหนเพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนจะได้สัมผัสรสชาติแบบเดียวกัน โดยเรียกการเวียนแก้วแบบนี้ว่า “Laget Om” แปลว่า “รอบๆ กลุ่ม” นั่นเอง

บางคนอาจสงสัยว่า แล้ว Lagom ต่างจาก Hygge เทรนด์การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ที่มีต้นกำเนิดจากเดนมาร์คตรงไหน Lagom นั้น เน้นที่ความพอดี รู้จักที่จะหยุดเมื่อเพียงพอ ในขณะที่ Hygge เป็นการสร้างวิถีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย สงบและอบอุ่น

A person jumping up in the airDescription automatically generated

พอดีอย่างไรในชีวิตประจำวัน

Lagom är bäst (ความพอดีคือดีที่สุด) För mycket och för lite skämmer allt (มากเกินไปและน้อยเกินไปทำให้เสียไปซะทุกอย่าง)” เป็นสุภาษิตของสวีเดนที่บ่งบอกถึง “ทางสายกลาง” ที่ลูกหลานชาวไวกิ้งต่างพร้อมใจกันดำเนินรอยตามเพื่อค้นพบว่าความอยู่ดีมีสุขเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันเพียงรู้จัก “ความพอดี” ไม่ว่าจะกินอะไร ใช้อย่างไร แต่งตัวแบบไหน ทำงานยังไง เราสามารถใช้แนวคิด Lagom ประยุกต์ได้ ภายใต้ 3 คีย์เวิร์ดคือ “สมดุล ยั่งยืน และพึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น”

ในการทำงานสไตล์ Lagom เป็นแนวคิดที่ส่งเสริม Work-Life Balance ได้อย่างดี ซึ่งคนสวีเดนพิสูจน์แล้วว่าวิถีการทำงานบนพื้นฐานความพอดี เน้นคุณภาพเหนือปริมาณ อาทิ เข้าออกงานตรงเวลา ทำงานเต็มประสิทธิภาพ และหยุดเมื่อถึงเวลาที่ควรพัก การบริหารเวลาให้เหมาะสมกับธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์งานที่ดีกว่า ในเวลาที่น้อยลง มีเวลากับตัวเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจกัง GDP ต่อหัวได้ในลำดับที่ 12 ของโลก พร้อมๆ กับมีค่าดัชนีความสุขสูงติดอันดับท็อป 10 ของโลกมาโดยตลอด

A living room filled with furniture and a fire placeDescription automatically generated

Lagom Living กับบ้านที่พอดี

แนวคิด Lagom ยังมีอิทธิพลต่อที่อยู่อาศัยซึ่งให้ความสำคัญกับ Well-being เป็นดัชนีประเมินค่าของบ้านแต่ละหลังมากกว่าใช้ราคาเป็นที่ตั้ง และเน้นแนวคิด “Quality over quantity” หรือการเลือกของแต่ละชิ้นโดยประเมินที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ โดย Lagom เป็นแนวคิดที่เน้นบาลานซ์ เพื่อการให้ชีวิตนั้นง่ายขึ้น รูปแบบการตกแต่ง จึงมุ่งที่จะจัดสรรสิ่งรอบกายให้เข้าถึงได้ง่าย และใช้งานได้อย่างสะดวก ลดความซับซ้อนในชีวิตลง โดยพาเล็ตต์สี จะเน้นโทนกลางๆ หรือ Neutral เพื่อลดแพทเทิร์นหรือสิ่งเร้าสายตาให้น้อยที่สุด อาจมีเฟอร์นิเจอร์เป็นจุดโฟกัสเพียงหนึ่งชิ้น และเติมความอบอุ่นให้กับบรรยากาศด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หินอ่อน หวาย ผ้าเป็นต้น

แม้ Lagom จะเน้นความเรียบง่าย แต่เป็นความเรียบง่ายที่จุดที่สมดุลกับการใช้ชีวิตอย่างเหมาะเจาะ Minimalism จึงมักเป็นแนวทางหลักที่นำมาใช้ในการตกแต่ง แต่ก็ไม่ถึงกับน้อยจนสุดโต่ง โล่งจนขาดความเป็นบ้าน เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ไม่เพียงแค่เน้นดีไซน์ที่สวยงามเรียบง่าย แต่ต้องมีประโยชน์ใช้สอยได้เต็มที่ จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่สต็อคข้าวของเกินกว่าที่ใช้ เพิ่มพื้นที่ว่างให้โปร่งโล่ง และดูแลทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย  ส่วน Accessories หรือของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ จะใช้เป็น Gimmick สร้างบรรยากาศสดใสมีชีวิตชีวา อาทิ การแต่งผนังเพียงเล็กน้อย โดยเลือกชิ้นที่เข้ากันได้ดีกับบรรยากาศโดยรวม เป็นต้น

A white plate topped with a vase of flowers on a tableDescription automatically generated

ความพอดี เป็นจุดที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อหา Sweet spot หรือจุดที่พอดีและลงตัวที่สุดซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน ในทุกกระบวนการออกแบบบ้านของโครงการเนอวานา จึงต้องคิดอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการอยู่อาศัยอย่างละเอียด เพื่อจัดสรรพื้นที่ให้แก่บ้านแต่ละแบบให้เข้ากับครอบครัวยุคใหม่ที่มีความต้องการแตกต่างกันไป แต่มุ่งค้นหาสิ่งเดียวกัน คือ บ้านที่จะมอบความสุขที่ยั่งยืน

ด้วยแนวคิด Living Revolution เราเชื่อว่าการปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบ “พอดีๆ” จะนำพาให้เกิดภูมิคุ้มกันความสุขที่ส่งต่อถึงกันในครอบครัว และขยายสู่สังคมรอบข้างให้งอกงามได้ไม่รู้จบ 

#NirvanaLivingRevolution #RevolutionOfModernDesign #NaturalModern

#DetailsMakeMagic #NirvanaHome #NirvanaDaii

facebook-msn